ประวัติวัดป่าโมกวรวิหาร
วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง อยู่ในเขตเทศบาลตำบลป่าโมก
ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองประมาณ 18 กิโลเมตร
เดิมมีวัดอยู่ 2 วัดอยู่ติดกัน คือวัดตลาด กับวัดชีปะขาว
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของประเทศไทย
มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท 22.58 เมตร ก่ออิฐถือปูน ปิดทอง
เล่าขานมาว่าได้ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัด
ราษฎรประชาชนชาวบ้านได้บวงสรวงและชักลากขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองประมาณ 18 กิโลเมตร
เดิมมีวัดอยู่ 2 วัดอยู่ติดกัน คือวัดตลาด กับวัดชีปะขาว
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของประเทศไทย
มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท 22.58 เมตร ก่ออิฐถือปูน ปิดทอง
เล่าขานมาว่าได้ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัด
ราษฎรประชาชนชาวบ้านได้บวงสรวงและชักลากขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนจะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราช
ได้เสด็จมาชุมนุมพลและถวายสักการะบูชาพระพุทธรูปองค์นี้
ได้เสด็จมาชุมนุมพลและถวายสักการะบูชาพระพุทธรูปองค์นี้
ปี พ.ศ. 2269 กระแสน้ำได้เซาะเข้ามาใกล้พระวิหาร สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 3 โปรดเกล้าฯให้พระยาสงครามเป็นแม่กองงานจัดการชะลอลากให้ห่างจากแม่น้ำเดิม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ได้เสด็จมาควบคุมการชะลอลากองค์พระ ให้พ้นจากกระแสน้ำเซาะตลิ่งพังไปยังวิหารใหม่ที่วัดท้ายตลาด ห่างจากฝั่งแม่น้ำ 168 เมตร แล้วโปรดให้รวมทั้ง 2 วัดเป็นวัดเดียวกัน พระราชทานนามว่า “วัดป่าโมก” เพราะบริเวณนั้นมีต้นโมกมากมาย
ภาพและข้อมูลโดย
คงชีพ ธรรมทัศนานนท์
พ.ศ.2556
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น