ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

พระนอนวัดป่าโมก ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ.2556



ประวัติวัดป่าโมกวรวิหาร
วัดป่าโมกวรวิหาร จังหวัดอ่างทอง อยู่ในเขตเทศบาลตำบลป่าโมก  
ห่างจากอำเภอเมืองอ่างทองประมาณ 18 กิโลเมตร
เดิมมีวัดอยู่ 2 วัดอยู่ติดกัน คือวัดตลาด กับวัดชีปะขาว
เป็นที่ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ที่งดงามมากองค์หนึ่งของประเทศไทย
มีความยาวจากพระเมาลีถึงปลายพระบาท 22.58 เมตร ก่ออิฐถือปูน ปิดทอง   
เล่าขานมาว่าได้ลอยน้ำมาจมอยู่หน้าวัด
ราษฎรประชาชนชาวบ้านได้บวงสรวงและชักลากขึ้นมาไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
    ในพระราชพงศาวดารกล่าวว่า สมเด็จพระนเรศวรมหาราชก่อนจะยกทัพไปรบกับพระมหาอุปราช   
ได้เสด็จมาชุมนุมพลและถวายสักการะบูชาพระพุทธรูปองค์นี้
ปี พ.ศ. 2269 กระแสน้ำได้เซาะเข้ามาใกล้พระวิหาร สมเด็จพระศรีสรรเพชญ์ที่ 3 โปรดเกล้าฯให้พระยาสงครามเป็นแม่กองงานจัดการชะลอลากให้ห่างจากแม่น้ำเดิม สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวท้ายสระ ได้เสด็จมาควบคุมการชะลอลากองค์พระ ให้พ้นจากกระแสน้ำเซาะตลิ่งพังไปยังวิหารใหม่ที่วัดท้ายตลาด ห่างจากฝั่งแม่น้ำ 168 เมตร  แล้วโปรดให้รวมทั้ง 2 วัดเป็นวัดเดียวกัน พระราชทานนามว่า “วัดป่าโมก” เพราะบริเวณนั้นมีต้นโมกมากมาย
ภาพและข้อมูลโดย 
คงชีพ ธรรมทัศนานนท์
พ.ศ.2556

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

วัดเนินสูงสามัคคี นครนายก

วัดเนินสูงสามัคคี อ.ปากพลี จ.นครนายก ปิดทองฝังลูกนิมิต 2563 วันเสาร์ ที่ 1 กุมภาพันธ์ 2563 เวลา ประมาณ 07.00 น.

พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ(หลวงพ่ออู่ทอง) วัดเขาทำเทียม

(ภาพถ่ายเมื่อ วันที่ 8 มิถุนายน 2562) องค์พระใหญ่"พระพุทธปุษยคีรีศรีสุวรรณภูมิ"(หลวงพ่ออู่ทอง) ที่แกะสลักจากหน้าผาหินเสร็จสมบูรณ์แล้ว เหลือแต่ฐานขององค์พระที่ยังมีช่างตกแต่งเก็บงานอยู่ ภาพโดย คงชีพ ธรรมทัศนานนท์

หลวงพ่อใหญ่ วัดประสิทธิเวช อุดมโชค มงคลลาภ ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ.2556

พ.ศ.2556 ภาพและข้อมูลโดย  คงชีพ ธรรมทัศนานนท์ ภาพถ่ายเมื่อ พ.ศ.2556